วันที่ 12 พฤษภาคม 2559 มีข่าวเวลา 07.36 น. ที่นครราชสีมาพบทารกถูกนำใส่กระเป๋าผ้าวางทิ้งไว้บริเวณศาลารอรถบ้านกรูด หน้าศูนย์มิชลิน เป็นทารกเพศหญิงสภาพถูกห่อไว้ สายสะดือยังติดอยู่ เด็กร้องดี แข็งแรง และถูกนำส่งที่โรงพยาบาลมหาราช ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุ ดำเนินการตามกฎหมาย

เหตุการณ์แบบนี้เกิดซ้ำๆ อย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องที่ไม่ต้องการ ไม่รู้จักสถานบริการ โรงพยาบาล คลินิก ที่จะให้การปรึกษาทางเลือก และการยุติการตั้งครรภ์ สร้างผลกระทบให้ท้องโตจนสายเกินกว่าที่จะยุติการตั้งครรภ์ทำให้ต้องท้องต่อและทิ้งเด็ก ขณะที่แพทย์ที่ให้บริการยุติตั้งครรภ์ก็มีจำนวนน้อยมาก เพราะเป็นประเด็นที่สังคมและหน่วยงานส่วนมากค่อนข้างจะคัดค้านไม่เห็นด้วย

การเข้าถึงบริการของผู้หญิงจึงลำบากยากเป็นอย่างยิ่งที่จะได้พบแพทย์ พยาบาลที่มีความรู้ตามหลักวิชาการที่ทันสมัย เทคโนโลยีการทำแท้งที่ปลอดภัยทางการแพทย์และสอดคล้องกฎหมายมาตรา 305 และข้อบังคับแพทยสภา ทั้งผ่านการอบรมการให้การปรึกษาทางเลือกและการยุติการตั้งครรภ์และยินดี พร้อมจะให้บริการผู้หญิงท้องไม่พร้อม ผู้หญิงจำนวนมากจึงต้องค้นหาข้อมูลการที่จะได้รับการทำแท้งจากอินเทอร์เน็ต

ลุงหมอได้ฟังเรื่องที่ผู้หญิงเหล่านี้มาเล่าให้ฟังเกี่ยวกับประสบการณ์การติดต่อขอซื้อยาทำแท้งจากอินเทอร์เน็ต และความคิดความรู้สึก ความกังวลใจ ลองอ่านดูครับ

หญิงสาววัย 20 ปี สมมุติชื่อ
“ทิพย์” กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีแฟนอายุน้อยกว่า 3 ปี ยังเรียนอยู่เช่นกัน ใช้วิธีการกินยาคุมกำเนิดฉุกเฉิน ยาคุมรายเดือนบ้าง ถุงยางอนามัย คุมกำเนิดไม่สม่ำเสมอ ประมาณ 80% ทำให้เธอท้อง ประจำเดือนครั้งสุดท้ายวันแรก 30 มีนาคม 2559 เธอได้ตรวจปัสสาวะวันที่ 5 พฤษภาคม และคิดว่ายังไม่พร้อมจะมีลูก เพราะแฟนยังเด็กคงเลี้ยงไม่ได้แต่แฟนอยากให้ท้องต่อ ส่วนเพื่อนสนิทก็บอกให้เอาลูกไว้กลัวจะบาป แต่ “ทิพย์” ตัดสินใจว่าต้องยุติการตั้งครรภ์และได้ค้นหาข้อมูล “การทำแท้ง” จาก Google พบเว็บไซต์ “สุขุมวิท12.com” มีเบอร์โทรให้ติดต่อ เธอพบว่า มียาทำแท้งชนิดสอดเข้าช่องคลอด และสามารถสั่งยาได้ วันที่ 9 พฤษภาคมจึงโทรติดต่อไป

ทิพย์   “หนูอยากซื้อยาสอดค่ะ”
เว็บ    “อายุเท่าไหร่คะ”
ทิพย์  “อายุ20ปีค่ะ”
เว็บ  “งั้นเตรียมจดเลขบัญชีธนาคารที่จะให้โอนเงินจำนวน 3,260 บาท เข้ามานะคะ
ทิพย์  “หนูต้องใช้ยาแบบไหนคะ”
เว็บ   “ประจำเดือนวันแรกครั้งสุดท้ายเป็นวันที่เท่าไหร่คะ”
ทิพย์  “วันแรกวันที่ 30 มีนาคม 2559”
เว็บ   “หนูต้องใช้ยากิน 1 เม็ด และใช้ยาสอดอีก 4 เม็ด ถ้าโอนเงินเสร็จแล้วให้ส่ง SMS มาที่เบอร์โทรนี้นะคะ และให้ส่งชื่อ ที่อยู่ มาด้วยจะได้จัดส่งยาไปให้ทาง EMS ประมาณ 3 วันจะได้รับยา

คำสนทนาทางโทรศัพท์ มีเพียงสั้นๆ ง่ายๆ ไม่ได้แนะนำให้ตรวจสอบอายุครรภ์ ไม่ได้อธิบายรายละเอียดเรื่องยา วิธีใช้ ผลของยา การแท้งจะเกิดเมื่อไหร่ การดูแลปรึกษาหลังแท้ง แต่ทิพย์ยังไม่ทันได้คิดไตร่ตรองอะไร รีบโอนเงินไปให้และรอจนถึงวันที่ 13 พ.ค. ก็ยังไม่ได้รับยา เธอกับเพื่อนก็โทรติดต่อไปแต่ไม่มีการรับสาย แต่วันที่ 14 พ.ค. ยาก็ส่งมา และทิพย์ก็อ่านดูใบแนะนำการใช้ยาซึ่งต้องทำความเข้าใจการใช้ยาด้วยตัวเอง เธอไม่ค่อยเข้าใจวิธีใช้ยาสักเท่าไหร่ ไม่มั่นใจว่าจะเชื่อถือได้มากหรือไม่ ปลอดภัยไหม ได้ผลไหม ถ้าไม่แท้งหรือมีอาการข้างเคียงจากยาหรือแท้งออกไม่หมด ติดเชื้อแล้วจะติดต่อเว็บ ให้การช่วยเหลือแนะนำแก้ไขปัญหา รับผิดชอบหรือไม่ เธอคิดแล้วก็ไม่กล้าใช้  เพื่อนจึงได้แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อให้การช่วยเหลือท้องไม่พร้อม และได้ตรวจอัลตร้าซาวด์พบว่าตั้งครรภ์ในมดลูกไม่ใช่นอกมดลูก อายุครรภ์ 6 สัปดาห์ และเธอก็ปลอดภัยแล้ว

เว็บที่ทิพย์ติดต่อซื้อยาทำแท้งนั้นระบุว่าเป็นของ “สมาคมพัฒนาประชากรและชุมชน” ซึ่งจริงๆ แล้วเว็บไซต์ที่ถูกต้องของสมาคม คือ www.pda.or.th และไม่ได้มีการขายยาทำแท้งส่งยาทางไปรษณีย์แต่อย่างใด เพราะคงไม่สามารถดูแลได้คุณภาพและปลอดภัย ทิพย์บอกว่าซองส่งยานั้นระบุที่อยู่ของผู้ส่งยาอยู่จังหวัดนครราชสีมา

รายที่2

หญิงสาวอายุ 24 ปีมีลูก 1 คนอายุ 2 ขวบ สามีเธอไปติดพันผู้หญิงอื่นที่รู้จักกันทาง Facebook พอเธอจับได้และบอกให้เขาเลือกคนใดคนหนึ่ง ปรากฏว่าสามีเลือกผู้หญิงคนนั้นและจากไปโดยไม่สามารถติดต่อเขาได้ ส่วนลูกสามีก็ไม่สนใจ เธอจำวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้ายไม่ได้ แต่พบว่าขาดประจำเดือน ตรวจปัสสาวะพบว่าตั้งครรภ์ เพราะเธอคุมกำเนิดด้วยยาเม็ดคุมกำเนิดรายเดือน แต่ก็ลืมกินบ้าง กินไม่ต่อเนื่องเธอเครียดมาก ปรึกษาแม่ๆ บอกว่าคงไม่สามารถปล่อยให้ท้องต่อได้  เธอค้นหาแหล่งทำแท้งจากอินเทอร์เน็ต พบเว็บไซต์ที่ให้สั่งยาทางโทรศัพท์และส่งยาทำแท้งทางไปรษณีย์ได้ชื่อเว็บ คลินิกสวท.com ที่ระบุว่าเป็นของสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ซึ่งความจริงเว็บที่ถูกต้องนั้นชื่อ www.ppat.or.th และไม่มีการขายยาทำแท้งโดยวิธีจัดส่งทางไปรษณีย์  เมื่อเธอโทรไปที่เว็บนั้น คนขายยา ถามว่าท้องกี่เดือนและแจ้งว่าราคายา 3,260 บาทรวมค่าส่ง เธอกำลังจะโอนเงินไปซื้อยา แต่เพื่อนแนะนำให้มาพบแพทย์ดีกว่า เมื่อมาพบแพทย์ตรวจอัลตร้าซาวด์พบว่าท้อง 7 สัปดาห์ 4 วัน

มีผู้สั่งซื้อยาจากเว็บ คลินิกสวท.com อีกราย ได้รับยาแต่ก็ไม่กล้าใช้ ซองส่งยาระบุว่าส่งมาจากเชียงใหม่ เว็บทั้งสองที่ขายยาจะบอกว่าท้อง 1-7 เดือนจะใช้ยากี่เม็ดเหมือนกัน ซึ่งมองว่าอันตรายที่จะปล่อยให้คนไข้ใช้ยาและดูแลตนเอง เพราะ…

ตามแนวทางการรักษาองค์การอนามัยโลกเรื่องการใช้ยาทำแท้งนั้นจะต้องดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดให้ปลอดภัยใน 3 ระยะ

  1. ระยะก่อนแท้ง คนไข้จะได้รับการซักประวัติเรื่องประจำเดือน โรคประจำตัว การแพ้ยา การกินยาอื่นๆ การตรวจร่างกาย การตรวจอายุครรภ์ด้วยอัลตร้าซาวด์ว่าเป็นครรภ์ในมดลูกไม่ใช่นอกมดลูก ได้รับคำปรึกษาอย่างรอบด้านให้เข้าใจและตัดสินใจว่าจะทำแท้งหรือไม่ เลือกวิธีไหน แต่ละวิธีมีกระบวนการทำอย่างไร  มีความเสี่ยงปลอดภัยแค่ไหน โอกาศแท้งสมบูรณ์มีกี่เปอร์เซนต์ ทำในอายุครรภ์เท่าไหร่จึงจะปลอดภัย และทำแบบคนไข้นอก หรืออายุครรภ์กี่สัปดาห์ ต้องนอนรักษาในโรงพยาบาลมีข้อห้ามการใช้ยาไหม มีโรคอะไร เช่น โรคหัวใจ ซีดไหมใช้ยาอะไรอยู่ มีแผลผ่าตัดที่มดลูกไหม เป็นท้องนอกมดลูกหรือไม่
  2. ช่วงระยะการทำแท้ง ต้องใช้ยาได้ในอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์หรือ 63 วัน จึงจะปลอดภัยแต่ต้องอยู่ภายใต้การติดตามดูแล มีปัญหาอะไรคนไข้ต้องปรึกษาแพทย์ได้ตลอด ทั้งเรื่องวิธีการใช้ยา อาการข้างเคียง ถ้าไม่สำเร็จแพทย์ต้องแก้ไขให้โดยวิธีการดูดในระยะเวลาไม่ควรเกิน 1 สัปดาห์ อายุครรภ์ที่เกิน 12 สัปดาห์จนถึง 24 สัปดาห์ (ถ้าเกินจากนี้ 6-7 เดือนไม่ควรทำแท้ง เพราะเสี่ยงอันตรายต่อการเสียชีวิตของแม่และลูกก็รอดมีชีวิต) ต้องนอนรักษาทำแท้งในโรงพยาบาลเพื่อป้องกันเฝ้าระวังการตกเลือดรุนแรง รกค้าง ติดเชื้อรุนแรง  มดลูกแตก  ปริมาณยาที่ปลอดภัยและได้ผล จะใช้สูตรยาที่ได้วิจัยและตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่กำหนดวิธีการใช้และปริมาณยา เวลาที่ห่างกันของการใช้ยา การใช้ยาในแต่ละอายุครรภ์ก็จะต่างกัน ซึ่งการใช้ยาที่ระบุจากเว็บทั้ง 2 แห่ง ไม่ให้คำแนะนำดังกล่าว และยังมีข้อสงสัยเรื่องประสิทธิภาพของยา ทำให้โอกาสไม่แท้งมีมากขึ้น จากที่มีคนไข้มาปรึกษาตามเครือข่ายและโรงพยาบาล รวมทั้งการแท้งไม่ครบ รกค้าง ตกเลือดต้องมาขูดลูกจำนวนมากเพราะใช้ยาในอายุครรภ์โตๆ

    มีรายงานการศึกษา “คุณภาพของยาไมโซพรอสตอล” ปี 2011 โดย ปีเตอร์ อี ฮอลล์  ที่ปรึกษาอาวุโสมูลนิธิคอนเซ็ป แนะนำว่ายาที่ใช้ยุติตั้งครรภ์ “ไมโซพรอสตอล” ที่มีชื่อทางการค้าต่างๆ เช่น ไซโตเทค หรือ ชื่ออื่นๆ ที่ผลิตจากโรงงานต่างๆ และนำมาขายในเอเชีย ละตินอเมริกา ต้องมีการตรวจสอบคุณภาพยาอย่างเข้มข้นก่อนสั่งซื้อ และนำมาขายเพราะมียาจำนวนมากไม่ผ่านคุณภาพ ได้แก่ 4 ในทุก 10 ตัวอย่างยาที่วิเคราะห์ 214 ตัวอย่าง มีตัวยาไมโซพรอสตอลต่ำกว่า 90% มียา 50 ตัวอย่างที่บรรจุอยู่ในวัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ เมื่อผ่านไป 1 ปี จะไม่ได้ตามสเปค และแม้แต่ยาที่มีวัสดุหุ้มห่อตามเกณฑ์คำแนะนำก็พบว่า มีถึง 28% มีการเสื่อมคุณภาพ มียา14 ตัวอย่าง ที่ไม่พบว่ามีไมโซพรอสตอลอยู่เลย (นั่นคือเป็นเม็ดเปล่าที่ไม่มีตัวยา!!) มี 3 ตัวอย่างที่เป็นยาเสีย (ผลิตไม่ได้ตามคุณภาพแต่ยังนำมาขายตามร้านยาซึ่งใช้ไม่ได้ผล) มีเพียง 1 ใน 48 ตัวอย่างของผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจคุณภาพอย่างถูกต้อง จะมีปริมาณไมโซพรอสตอลต่ำกว่ามาตรฐาน จากข้อมูลนี้บอกอะไรครับ นั่นคือ…บอกว่ายาที่คนไข้จะนำมาใช้อาจเสี่ยงที่จะไม่ได้ผลเต็มที่ ทั้งไม่แท้งและแท้งออกไม่หมดถ้าเป็นยาที่ไม่ได้ยืนยันด้านคุณภาพ
  3. ระยะหลังแท้ง คนไข้ต้องได้รับการติดตามว่าแท้งสมบูรณ์หรือไม่ ถ้าไม่สมบูรณ์จำเป็นต้องดูดออกไหม ติดตามว่าเลือดออกนานกี่วัน ปกติการใช้ยาทำแท้งช่วงอายุครรภ์ไม่เกิน 9 สัปดาห์จะมีเลือดออกนานกว่าการดูด (ที่ดูดช่วงอายุครรภ์ 9 สัปดาห์) แต่มักไม่เกิน 14 วัน ต้องดูเรื่องปวดท้อง มีไข้ที่อาจเป็นการติดเชื้อในอุ้งเชิงกราน ต้องวินิจฉัยและรักษา แม้จะเกิดน้อยกว่าการดูด แต่ต้องระวังเพราะมีรายงานการติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นช๊อคจากอเมริกา 4 ราย และแคนาดา 1 ราย  คนไข้ที่ใช้ยาทุกคนต้องได้รับการยืนยันว่าแท้งหรือไม่ และออกหมด หรือตกค้างด้วยการตรวจภายในหรืออัลตร้าซาวด์ ขณะเดียวกันถ้ายังปวดท้องมาก ต้องดูว่ามีท้องนอกมดลูกหรือไม่ บางรายมีทั้งท้องในและนอกมดลูกพร้อมกัน มีผู้หญิงที่ซื้อยาจากเว็บโดยไม่รู้ว่าตนเองตั้งท้องนอกมดลูกทำให้เสียชีวต กรณีที่ใช้ยาแล้วไม่แท้งลูกก็มีโอกาศที่ลูกอาจจะพิการได้เรียก ไซเรนโนมีเลีย (sirenomelia) มีรายงาน 1 รายที่ใช้มิฟิพริสโตน (mifepristone) 5 รายที่ใช้ไมโซพรอสตอล

เร็วๆ นี้วันที่ 14 พฤษภาคม มีข่าวจากเครือข่ายทำทาง ที่ช่วยเหลือผู้หญิงท้องไม่พร้อมว่ามีวัยรุ่นอายุ 16 ปีได้เสียชีวิตเพราะทำแท้ง เธอท้อง 12-14 สัปดาห์ ได้ซื้อยาจากเฟซบุ๊คมาใช้ทำแท้งเองที่บ้านช่วงที่พ่อและพี่สาวไม่อยู่ ส่วนแฟนก็ออกจากบ้านมาไม่ได้เธออยู่ตามลำพัง กินยา 1 เม็ด วันที่ 24 เมษายน อมยา 4 เม็ดวันที่ 25 เมษายน และแท้งมีตัวอ่อนขนาด 1-2 นิ้วหลุดออกมา ใน 4 ชั่วโมงต่อมา แต่รกไม่ยอมออก และได้อมยาอีก 2 เม็ด ระหว่างนั้นเริ่มมีไข้ มีอาการตกเลือด มีเพื่อนข้างห้องนำส่งโรงพยาบาลห้องฉุกเฉินในขณะนั้นเธอหมดสติ แพทย์ได้ขูดมดลูก ต่อมาเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งอยู่ 4 วัน รักษาการติดเชื้อขณะอยู่ที่บ้านพี่สาวพบคนไข้นอนหมดสติ ไข้สูงจึงส่งโรงพยาบาลและเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

ดังนั้นการจ่ายยาช่วยผู้หญิงเพื่อให้ยุติตั้งครรภ์ที่ปลอดภัยต้องมี

  1. มีการซักประวัติออนไลน์ก่อนจ่ายยา
  2. อายุครรภ์ไม่เกิน9สัปดาห์ (ซึ่งเป็นอายุครรภ์ที่ใช้ยาที่บ้านได้)
  3. มีการปรึกษาออนไลน์ได้ตลอดการใช้ยา    

ด้วยรักและห่วงใย

นพ.เรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล ผู้ประสานงานเครือข่าย RSA

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 4.6 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 34

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้