ผู้หญิงที่ประสบปัญหาท้องไม่พร้อมส่วนใหญ่จมอยู่กับความทุกข์ ความรู้สึกเสียใจ อับอาย ไร้คุณค่า สูญเสียความเชื่อมั่นและขวัญกำลังใจ ภาวะอย่างนี้การใช้สติปัญญาและสมาธิในการไตร่ตรองถึงสถานการณ์ปัญหา และใคร่ครวญเพื่อตัดสินใจแก้ปัญหาเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก

วันที่ 26 ธันวาคม 2559 มีข่าวจากเครือข่ายอาสา RSA เพื่อส่งต่อยุติการตั้งครรภ์ที่อีสานแจ้งมาว่า มีคนไข้เสียเงิน 6,000 บาท ไปทำแท้งเถื่อนด้วยการฉีดน้ำยาเข้าในช่องคลอด แต่ไม่สำเร็จ มีเลือดออกเล็กน้อยอยู่ 3 วัน เธอรอดูอีก 3 สัปดาห์ก็ไม่แท้ง พอกลับไปหาคนเดิมเขาบอกว่าต้องเสียเงินใหม่อีก 6,000 บาท เธอมาพบแพทย์ตรวจอัลตร้าซาวด์อายุครรภ์ 18 สัปดาห์ ซึ่งมีผู้หญิงไปทำแท้งแบบนี้ไม่สำเร็จหลายราย กรณีแบบนี้น่าเป็นห่วงนะครับ เสียเงิน ซ้ำแก้ปัญหาไม่ได้ และโดนหลอกลวง

แพทย์ RSA ภาคเหนือ ก็พบผู้หญิงไปทำแท้งที่ไม่ปลอดภัยด้วยวิธีฉีดน้ำเกลือเข้าช่องคลอด 2 ราย ในช่วงเดียวกัน สายด่วนปรึกษาเรื่องเอดส์และท้องไม่พร้อม 1663 ให้การปรึกษาและส่งต่อผู้หญิงไปให้แพทย์ยุติการตั้งครรภ์ปลอดภัยอย่างต่อเนื่องจำนวนมาก ได้ช่วยผู้หญิงรายหนึ่งอายุ 32 ปี ที่ซื้อยาทำแท้งจากเว็บไซต์ขายยาทางอินเทอร์เน็ต แต่ใช้ยาแล้วไม่สำเร็จ

เมื่อรู้แล้วว่า 2 วิธีนี้เสี่ยง ไม่ได้ผล ผู้หญิงก็ไม่น่าเลือกนะครับ

วันที่ 14 ธันวาคม ที่เกาะช้าง จ.ตราด ชาวบ้านพบศพทารกอายุครรภ์ประมาณ 5 – 6 เดือน ถูกทิ้งไว้ในถังขยะ ลำตัวมีรอยเขียวช้ำ มีมดมาเกาะจำนวนมาก สันนิษฐานว่าแม่ไม่สามารถเลี้ยงดูได้

วันที่ 26 ธันวาคม ที่เกาะสมุย จ.สุราษฏร์ธานี พบศพทารกบริเวณกองขยะ ตัวเป็นสีแดง สายสะดือยังติดอยู่ คาดว่าไม่พร้อมรับผิดชอบ เมื่อรู้ว่าท้องจึงทำแท้งด้วยตนเอง

ทั้ง 2 ข่าว ตำรวจบอกว่าจะตามจับต่อไป และทั้ง 2 รายเป็นการทำแท้งที่ช้าเกินไป มีโอกาสตกเลือดสูง ถือว่ามีอันตรายที่ไม่ควรเลือกทำในอายุครรภ์มากขนาดนี้

ข้อมูลทางวิชาการ คือ การแท้งจะมีอันตรายเพิ่มมากขึ้นตามอายุครรภ์ อย่างท้องเกิน 3 เดือน จะอันตรายกว่าท้องต่ำกว่า 3 เดือนถึง 10 เท่า ซึ่งควรทำแท้งเร็วในช่วงท้อง 2 เดือนจะปลอดภัยที่สุดโดยแพทย์ 

ทั้งนี้ ลุงหมอได้ถามความคิดเห็นญาติและผู้หญิงท้องไม่พร้อมเกี่ยวกับยาทำแท้งที่ขายตามเว็บไซต์ว่าทำไมจึงซื้อ คำตอบคือผู้หญิง
(1) ไม่กล้าไปหาหมอ กลัวหมอจะไม่ทำให้ ให้เธอท้องต่อ และมองเป็นผู้หญิงไม่ดี
(2) ตรงกับทางออกและความต้องการ
(3) กลัวผิดกฎหมายและศีลธรรม
(4) อยากปิดเป็นความลับ
(5) สะดวก ไม่เรื่องมาก
(6) รู้เท่าไม่ถึงการณ์
(7) กลัวพ่อแม่รู้ ถ้าไปหาหมอ

ส่วนคนที่ไม่ซื้อยาจากเว็บไซต์มีเหตุผลคือ
(1) ไม่ปลอดภัย
(2) กลัวโดนหลอก
(3) เวลามีปัญหาจะปรึกษาใครไม่ได้

พวกเธอสรุปว่าเว็บไซต์น่าจะเข้าถึงง่ายกว่า สะดวกกว่า แต่ลุงหมออยากให้ผู้หญิงเลือกที่จะเชื่อว่า “พบแพทย์สบายใจกว่า มั่นใจและปลอดภัยมากกว่า” ที่สำคัญปรึกษาได้ตลอดเวลา

นอกจากนี้ สายด่วน 1663 เปิดเผยผลการบริการในปี 2559 พบว่า

มีผู้หญิงถึง 555 คน ที่ท้องโตตั้งแต่ 17 – 29 สัปดาห์ ที่ต้องการทำแท้ง ซึ่งถือว่าปรึกษาล่าช้ามีอันตรายมาก มีคนไข้ 197 คน ที่ยอมรับว่าซื้อยาขับกินถึง 130 คน ลองยุติการตั้งครรภ์ด้วยตนเอง 75 คน ไปยุติการตั้งครรภ์ที่ไม่ปลอดภัย 7 คน ซึ่งทั้ง 3 วิธีนี้ก็ไม่ควรเลือก เพราะจะไม่แท้ง เสี่ยงอันตรายถ้าตกเลือด ติดเชื้อ

93 คน ซื้อยาจากอินเทอร์เน็ต ผลก็ไม่ดีเลย คือ ยุติการตั้งครรภ์สำเร็จเพียง 3 คน แต่มีผลกระทบต่อสุขภาพ 1 คน ส่วนมากยุติไม่สำเร็จถึง 74 คน และเกิดผลเสียกระทบต่อสุขภาพมากถึง 60 คน ไม่ได้ใช้ยา 5 คน เพราะกลัวไม่ปลอดภัย ส่วนถูกหลอก เพราะไม่ได้ยาที่สั่งซื้อจำนวน 2 คน

ผลดังกล่าวไม่ดีแน่ใช่ไหมครับ

มีผลการวิจัยเมื่อ ค.ศ. 2007 เรื่อง “อะไรเป็นสาเหตุที่ผู้หญิงทำแท้งช้า” โดยอิลลี่ ลีและทีมงาน จากมหาวิทยาลัยเซาท์แธมตัน อังกฤษ พบว่า มีความล่าช้าใน “เส้นทางสู่การทำแท้ง” ระยะใดระยะหนึ่ง ใน 5 ระยะ คือ
(1) สงสัยว่าท้องหรือไม่
(2) อยู่ระหว่างสงสัยและตรวจการตั้งครรภ์
(3) ระยะรู้ผลและการตัดสินใจ
(4) ระยะการตัดสินใจและการขอทำแท้ง
(5) อยู่ระหว่างการขอทำแท้งและกระบวนการทำแท้ง โดยมีสาเหตุความล่าช้าเกิดจากทั้งตัวผู้หญิงเองหรือการบริการ กรณีที่มาจากผู้หญิง เช่น ไม่ตรวจการตั้งครรภ์ ปล่อยเวลาให้นานเกินไป ตัดสินใจไปหาหมอช้าเป็นเดือน ไม่แน่ใจที่จะทำแท้ง กังวลใจเรื่องการทำแท้ง รอถามแฟนหรือคนอื่น คิดว่าท้องยังเล็กอยู่

กรณีจากการบริการ เช่น รอหมอนาน นัดทำช้า ไม่รู้จักหรือสับสนสถานที่ทำ เปลี่ยนแพทย์ที่ทำ ซึ่งความล่าช้าในแต่ละระยะอาจเสียเวลาไม่กี่วันจนถึงหลายสัปดาห์ ถ้าเป็นหญิงไทยก็คล้ายกัน ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยคือ ไม่คิดว่าจะท้อง เพราะเคยประจำเดือนขาดบ่อยๆ จึงชะล่าใจไม่ยอมตรวจให้รู้ว่าท้อง

ตัวอย่างสาววัย 26 ปีมาพบแพทย์วันที่ 15 ธันวาคม เธอเข้าใจว่าขาดประจำเดือน 2 เดือน เพราะวันที่ 10 ตุลาคมยังเป็นเมนส์มา 4 วัน โดยประวัติ เธอฉีดยาคุมที่ขอนแก่น แต่เมื่อครบวันนัดฉีดครั้งต่อไปเธออยู่กรุงเทพฯ หมอที่นั่นไม่ฉีดยาคุมให้ เพราะไม่เป็นเมนส์และบอกว่าให้มาฉีดวันที่ที่ประจำเดือนมาวันที่ 2 หมอแนะนำให้กินยาคุมไปก่อน เธอก็กินยา แต่ลืมกินแล้วมีเลือดออกมาวันที่ 10 ตุลาคม ผลตรวจอัลตร้าซาวด์อายุครรภ์ 17 สัปดาห์ ไม่ใช่ 2 เดือนกว่าอย่างที่คิด ซึ่งเหตุล่าช้า เพราะเข้าใจผิดและไม่ได้สังเกตอาการท้อง

การปรึกษาเรื่องท้อง “เวลาและการตัดสินใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด” ต้องรู้ว่าท้องและพบแพทย์ให้เร็วดีที่สุด ส่วนวิธีที่ไม่ได้ผล ไม่ปลอดภัย ผู้หญิงต้องไม่เลือก

ด้วยรักและห่วงใย
นพ.เรืองกิตติ์ ศิริกาญจนกูล ผู้ประสานงานเครือข่าย RSA

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 4.8 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 6

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้