RSA เราคือแพทย์ 157 คนและสหวิชาชีพ 614 คน จาก 70 จังหวัดที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ตามหลักวิชาการ ได้รับการแต่งตั้งและสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข เรามีองค์ความรู้และมีประสบการณ์ให้บริการยุติการตั้งครรภ์มากที่สุดในประเทศไทย เราไม่ได้อยู่บนหอคอยงาช้างแต่ได้สัมผัสชีวิตผู้หญิงที่ท้องไม่พร้อม เราจึงอยากเห็นประเทศไทยพัฒนากฎหมายที่สอดคล้องกับวิชาการและความเป็นจริงที่ไม่ใช่จากความเชื่อส่วนบุคคล

ความจริงเรื่องแท้ง#1
ผู้หญิงบาดเจ็บและตายจากทำแท้งไม่ปลอดภัยในแต่ละปีสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด 3 เท่า

ประเทศไทยมีปัญหาการบาดเจ็บและตายของผู้หญิงไทยที่มีถึงปีละกว่า 3 หมื่นราย ค่อยๆ ลดลงเหลือ 20,000 หมื่นรายในปี 2562 จากความร่วมมือของเครือข่ายการส่งต่อยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย แม้จำนวนผู้หญิงที่บาดเจ็บและตายจะลดลงไป แต่ก็ยังสูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด19 ในประเทศไทยถึงสามเท่า การทำแท้งไม่ปลอดภัยนี้ได้ส่งผลให้ประเทศชาติต้องสูญเสียงบประมาณในการรักษาพยาบาลถึงปีละกว่า 150 ล้านบาท ยังไม่รวมการสูญเสียชีวิตของผู้หญิงที่มิอาจประเมินค่าได้  

ความจริงเรื่องแท้ง#2
ทำแท้งเสรีไม่มีในโลกนี้ เพราะทำแท้งคือบริการสุขภาพ

การยุติการตั้งครรภ์เป็นบริการสุขภาพตามแนวทางมาตรฐานบริการของกระทรวงสาธารณสุข ยายุติการตั้งครรภ์อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ สปสช. สนับสนุนค่าบริการ และแพทยสภามีข้อบังคับรับรอง การแก้ไขกฎหมายทำแท้งควรมุ่งเน้นที่การรักษาชีวิตและสุขภาพของผู้หญิง กฎหมายไม่ควรเป็นอุปสรรคในการปิดกั้นไม่ให้ผู้หญิงเข้าถึงบริการที่ปลอดภัย ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดขององค์การอนามัยโลกที่ต้องการลดการสูญเสียชีวิตจากการทำแท้งไม่ปลอดภัยด้วยการยกเลิกหรือลดความเป็นอาญากรรมของการทำแท้ง ปัจจุบันมีสถานบริการยุติการตั้งครรภ์ทั่วประเทศไทยเพียง 85 แห่ง โดยรับถึงอายุครรภ์ 20-24 สัปดาห์เพียง 4 แห่งเท่านั้น

ความจริงเรื่องแท้ง#3
ทั่วโลกยกเลิกการขูดมดลูก แต่ประเทศไทยยังมีใช้อยู่

ความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน องค์การอนามัยโลก จึงได้ร้องขอให้นานาประเทศ ยกเลิกการขูดมดลูก และแนะนำให้ยุติการตั้งครรภ์โดย 1) การใช้ยายุติการตั้งครรภ์ ที่ใช้ได้ในทุกอายุครรภ์ หรือ 2) เครื่องดูดสุญญากาศ หรือ MVA (Manual Vacuum Aspirator) ที่ใช้อย่างปลอดภัยได้ถึงอายุครรภ์ 12 และถึง 16 สัปดาห์สำหรับแพทย์ที่มีความชำนาญ ปัจจุบันนโยบายของกระทรวงสาธารณสุขพยายามลดเลิกวิธีการขูดมดลูกเพื่อความปลอดภัยของผู้หญิง ซึ่งที่สุดแล้วอาจต้องเริ่มต้นจากผู้หญิงเองที่ปฏิเสธวิธีการที่ล้าสมัยนี้ด้วย

ความจริงเรื่องแท้ง#4
การทำแท้งที่อายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์มีความปลอดภัยมากกว่าการคลอด

ในปี 2558-59 คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์ ศิริราช และรามาธิบดี ได้ร่วมกับนานาชาติวิจัยถึงความปลอดภัยในการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ผลการศึกษาพบว่าการใช้ยายุติการตั้งครรภ์ที่อายุครรภ์ 12-20 สัปดาห์มีประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูง มีอัตราการแท้งสมบูรณ์ร้อยละ 98.6 – 99.5 โดยควรให้บริการในสถานพยาบาลเพื่อดูแลอาการตกเลือดที่อาจเกิดขึ้น ทั้งนี้พบว่าการยุติการตั้งครรภ์ทางการแพทย์ถึงอายุครรภ์ 21 สัปดาห์ มีความปลอดภัยมากกว่าการคลอดเมื่อครบกำหนดถึง 20-27 เท่า

ความจริงเรื่องแท้ง#5
การเปิดให้ผู้หญิงทำแท้งได้ถึง 24 สัปดาห์จะลดความสูญเสียจากการทำแท้งไม่ปลอดภัย

ไม่มีใครทราบว่าผู้หญิงที่ทำแท้งในประเทศไทยมีเท่าไร ความเกรงกลัวต่อกฎหมายอาญาและการตรีตราของสังคม ทำให้ผู้หญิงต้องใช้บริการ “ใต้ดิน” หรือ หาซื้อยาทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของการบาดเจ็บและเสียชีวิต มีการคาดประมาณการทำแท้งในประเทศไทยไว้ที่สามแสนครั้งต่อปี โดยข้อมูลสายด่วน 1663 พบว่า 17.6% มีอายุครรภ์มากกว่า 12 สัปดาห์ คือ 52,800 รายต่อปี หากกฎหมายยังคงความผิดทางอาญาให้กับผู้หญิงที่อายุครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป จะเป็นการผลักไสให้ผู้หญิงกว่า 5 หมื่นคนต่อปีนี้หลุดออกจากระบบไปสู่บริการที่ไม่ปลอดภัย

ความจริงเรื่องแท้ง#6
จุดสมดุลของการคุ้มครองสิทธิผู้หญิงและตัวอ่อนในครรภ์ คือที่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์ 

กฎหมายทำแท้งควรสร้างสมดุลกับการคุ้มครองสิทธิของผู้หญิงและตัวอ่อนในครรภ์ เพราะความหมายของ “การแท้ง” หมายถึงตัวอ่อน (embryo) ถูกขับหลุดออกมาจากมดลูกในระยะครึ่งแรกของการตั้งครรภ์ คือน้อยกว่าหรือเท่ากับ 20-22 สัปดาห์ซึ่งน้ำหนักน้อยกว่า 500 กรัม ข้อเท็จจริงทางการแพทย์คือ ตัวอ่อนในครรภ์จะออกมามีชีวิตได้จริงเมื่ออายุครรภ์มากกว่า 24 สัปดาห์ขึ้นไป เพราะโอกาสมีชีวิตของตัวอ่อนที่อายุครรภ์ 20 สัปดาห์คือ 0% ที่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์คือ 0 – 10% และที่อายุครรภ์ 24 สัปดาห์คือ 40-70% ส่งผลให้การยุติการตั้งครรภ์หลังอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ถือเป็นการคลอดก่อนกำหนด เพราะว่าทารกมีโอกาสรอดชีวิตได้ ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ส่งผลให้ยายุติการตั้งครรภ์ขึ้นทะเบียนบัญชียาหลักแห่งชาติให้ใช้ได้ถึงอายุครรภ์ 24 สัปดาห์ 


แถลงการณ์ข้อเท็จจริงเรื่องการทำแท้งในประเทศไทย จากเครือข่ายอาสา RSA วันที่ 3 มกราคม 2564
https://rsathai.org/contents/17600

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 4.3 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 23

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้