จากการศึกษาเรื่อง รูปแบบการจัดบริการและการยอมรับการยุติการตั้งครรภ์โดยใช้ยาในประเทศไทย The study on “Service Management Sy stems and Acceptability of Medical Termination of Pregnancy in Thailand” พบว่ามี 5 ข้อดี 4 ข้อจำกัดจากผู้ให้บริการยุติการตั้งครรภ์ด้วยยาเมื่อเปรียบเทียบวิธีการทางหัตถการในทัศนะของผู้ให้บริการ ดังต่อไปนี้

ข้อดี 

1. เป็นวิธีการยุติการตั้งครรภ์ที่ผู้รับบริการสามารถดำเนินการเองได้ ภายใต้การได้รับคำแนะนำและการดูแลจากบุคลากรทางการแพทย์

2. ลดภาระต่อบุคลากรทางการแพทย์ เนื่องจากคนไข้สามารถนำยาตัวที่สอง (ไมโซโพรสตอล ) กลับไปใช้ที่บ้านได้

3. ผู้ให้บริการสามารถบริหารจัดการเรื่องการให้บริการคนไข้แบบ one stop service ได้โดยไม่เป็นการรบกวนคนไข้กลุ่มอื่น

4. เป็นบริการที่ง่ายสะดวก

5. เกิดความสบายใจในการให้บริการมากกว่าวิธีทางหัตถการผู้ให้บริการไม่ต้องลงมือโดยตรงช่วยลดความไม่สะดวกใจในการให้บริการของแพทย์ลงได้มาก

4 ข้อจำกัด 

1. ข้อจำกัดอายุครรภ์ที่ไม่เกิน 63 วัน

2. ใช้ระยะเวลาในการสิ้นสุดกระบวนการยุติการตั้งครรภ์นานกว่าวิธีการทางหัตการ

3. ความจำเป็นในการนัดผู้รับบริการที่มีปัญหาเรื่องการเดินทางและค่าใช้จ่ายทำให้เกิดปัญหาเรื่องการไม่มาตรวจติดตามผลตามที่นัดหมาย

4. กรณีผู้รับบริการไม่ประสบความสำเร็จในการยุติการตั้งครรภ์โดยใช้ยา ทำให้ต้องทำหัตกรรมเพิ่มเติม

หมายเหตุ :  ล่าสุด เดือนมิถุนายน พ.. 2559 ที่ผ่านมา คณะอนุกรรมการ พัฒนาบัญชียาหลักแห่งชาติ (อย.) ได้พิจารณาคัดเลือกยามิฟิพริสโตนและไมโซโพรสตอลที่บรรจุในแผงเดียวกัน (Medabon® ) เข้าอยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติบัญชีย่อย จ(1) เพื่อใช้ยุติการตั้งครรภ์ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ ที่อายุครรภ์ไม่เกิน 24 สัปดาห์ โดยสามารถใช้ในสถานพยาบาลที่ขึ้นทะเบียนกับกรมอนามัยเท่านั้น

ทั้งนี้ สำหรับประเทศไทยเราจะพบภายใต้ชื่อการค้า ของไมโซโพรสตอล ในชื่อ Cytotec ,ไซโตเทค และ มิฟิพริสโตน ในชื่อ Ru-486  ตามเว็บไซต์ขายยาทำแท้งเถื่อน

อ้างอิง : วารสารการส่งเสริมสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อม ปีที่ 39

ร่วมติดดาวให้เนื้อหาที่ท่านชื่นชอบ

คลิกที่ดาวเพื่อติดดาวให้เนื้อหานี้

จำนวนดาวเฉลี่ย 3 / 5. จากการติดดาวทั้งหมด 4

ยังไม่มีการติดดาวให้กับเนื้อหานี้... เป็นคนแรกติดดาวให้เนื้อหานี้