นักเรียนแพทย์รุ่นใหม่ให้ดูดแทนขูด เพื่อรักษาการแท้ง เพื่อวินิจฉัยมะเร็งในโพรงมดลูก
ถ้าใครสักคนจะต้องถูกขูดมดลูก กรุณาช่วยถามหมอสักนิด ว่าหมอจะขูดด้วยเหล็กขูดหรือจะดูดด้วยหลอดพลาสติก
เอาล่ะ มาเริ่มกัน
ถาม: ใครกัน ที่จะต้องถูกขูดมดลูก?
ตอบ: ผู้หญิง
เออ แน่ดิ ผู้ชายมันไม่มีมดลูกนี่นา ถึงแม้จะผ่าตัดแปลงเพศมาจนมีจิ๋มได้แล้ว มันก็ยังไม่มีมดลูก จะขูดหรือดูดในรูตูด มันก็ไม่ใช่กิจกรรมทางการแพทย์สักหน่อย
เราขูดหรือดูดโพรงมดลูกเพื่อการรักษาหรือวินิจฉัยโรคเท่านั้นครับ เป็นต้นว่า การตั้งท้องผิดปกติก็ทำแท้งซะ แท้งไม่ครบก็ดูดออกให้ครบซะ นี่คือการรักษา แต่หากเป็นการวินิจฉัย อันที่จริงก็ทำแบบเดียวกัน นั่นคือขูดหรือดูดเอาโพรงมดลูกออกมาเพื่อให้ได้ชิ้นเนื้อแล้วพาไปตรวจดูว่ามันเป็นมะเร็งหรือไม่ หลักๆก็มีเพียงเท่านี้
แล้วทำไมผมจึงจั่วหัวว่า ขูดหรือดูด
นั่นเพราะสมัยก่อน เรามีเทคโนโลยีในเรื่องแบบนี้ไม่มาก เราจึงใช้เครื่องมือที่เป็นเหล็กคมๆ...
เพศสัมพันธ์กันปีละครั้ง
“หมอรู้ไหม บางทีฉันก็ต้องถามตัวเอง ว่าเรากำลังข่มขืนสามีอยู่รึเปล่า” เธอเป็นคนเปิดประโยคนี้ออกมาก่อนที่ผมจะได้อธิบายว่าการตรวจภายในไปเมื่อครู่นั้นพบเจออะไรบ้าง
“หมอจำฉันได้ไหม ฉันเคยมาหาหมอเมื่อคราวก่อนเพื่อจะให้หมอทำรีแพร์ให้” เธอยังคงเรียกสติผมให้กลับมาสู่การสนทนา หลังจากที่เห็นผมทำท่าตะลึงจากบทสนทนาแรก
“จำได้สิ” ตอบว่าจำได้ เพราะเหลือบมองในประวัติเก่า ผมเขียนบันทึกการรักษาเอาไว้“ทำไมจะจำไม่ได้ เธอคือคนที่หมอบอกว่าจิ๋มปกติ จิ๋มของเธอหนีบได้แรงดี และท้ายที่สุดก็ไม่ยอมทำรีแพร์ให้” เธอยิ้มและพยักหน้า
“หมอยังพูดว่า หากจะให้จิ๋มเล็กกว่านี้ ก็เป็นรูตูดแล้ว” เธอแทบจะพูดประโยคนี้ขึ้นมาพร้อมผม
“ใช่ ผมก็ยังจำเรื่องราวนั้นได้” จะว่าไป ที่จำได้ก็เพราะในค่ำวันนั้น ผมได้เขียนเรื่องราวของเธอบันทึกเอาไว้ในรูปแบบเรื่องสั้นนั่นเอง ผมจำทุกเรื่องที่เขียนลงไปได้เสมอ และผมบอกเธอไปว่า “เมียไม่ใช่นางบำเรอ”
“ฉันไม่ได้จำจิ๋มของเธอเอาไว้หรอกนะ...
“..ทำแท้งคือการรักษา เป็นหมอก็ต้องรักษาคน..”
“คุณหมอที่อยู่ภาคใต้นั่น ดูเขาภูมิใจเสียนักหนา ว่าเป็นหมอทำแท้ง” มีเสียงกระซิบมาให้แอบได้ยินอย่างนั้น“ครับ ก็ทำแท้งคือการรักษาคนไงครับ เป็นหมอก็ต้องรักษาคน” ผมตอบกลับไป ทั้งๆ ที่ยังไม่แน่ใจนักว่าคุณหมอที่อยู่ภาคใต้คนนั้นจะใช่ผมในบทสนทนาหรือเปล่า “เขายังภูมิใจว่าได้เป็นวิทยากร” นั่นไง มันใกล้ผมเข้าไปอีก เพราะไอ้คนที่อยู่ภาคใต้และมักเป็นวิทยากรจะเหลืออยู่สักกี่คน เหมือนเล่นเกมโชว์ทายชื่อดาราทางทีวีเข้าไปทุกที“ครับ การป้องกันไม่ให้ผู้หญิงที่จะไปทำแท้งจริงๆ ถูกทำแท้งเถื่อนจนเกิดอันตรายต่อร่างกายและชีวิต มันก็น่าจะเป็นหน้าที่ที่สำคัญของหมออีกเช่นเดียวกัน และหนึ่งในนั้นคือการทำแท้งให้อย่างปลอดภัยและป้องกันการท้องใหม่ให้เรียบร้อย” ผมยังจำวงล้อของงานอนามัยการเจริญพันธ์ุที่ครูสอนได้ว่า การแท้งที่ปลอดภัยมันคือหนึ่งในงานของวงล้อนั้น และเรื่องแท้งนี่แหละ ที่ไม่ค่อยมีหมอคนไหนอยากเข้ามาข้องเกี่ยว“สวัสดีค่ะคุณหมอ”หนูได้อ่านที่คุณหมอเขียนเกี่ยวกับการทำแท้งนั้นหนูคือคนหนึ่งที่เกิดอุบัติเหตุนั้น ทุกวันนี้บาปติดในใจหนูเสมอในทุกวันเวลาเชื่อผมสิครับ ไม่มีใครมีความสุขใจในการทำแท้งเอาลูกตัวเองออกมาหรอกครับ...
“ท้องต่อไม่ได้ ควรทำแท้ง” โรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
การตั้งท้องประเภทหนึ่งที่พวกผมพยายามอธิบายให้พวกเขาทั้งคู่ทราบว่า “ท้องต่อไม่ได้ ควรทำแท้ง” นั่นคือคู่สมรสที่มีลูกในท้องเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดรุนแรง
เรื่องนี้อาจจะยากสักนิด แต่เชื่อไหม มันอยู่ในตัวพวกเรา
จริงๆ เพราะผมกำลังพูดถึง “ระบบเลือดและการขนส่งออกซิเจน”
ทันทีทันใดที่พวกเรามุดหัวออกมาจากจิ๋มของแม่แล้วแหกปากร้องแทบตายเพื่อที่จะหายใจเอาลมเข้าไปขยายปอดให้ได้นั้น กระบวนการแลกเปลี่ยนก๊าซของร่างกายก็เริ่มต้นขึ้นทันที
อากาศถูกเราหายใจเข้าไปในปอด เข้าไปยังส่วนที่ลึกที่สุดซึ่งเป็นระบบหลอดเลือดฝอย ก๊าซออกซิเจนจะถูกดึงเข้าไปในหลอดเลือด โดยมีตัวมาจับคือฮีโมโกลบินบนผิวเม็ดเลือดแดง จากนั้นก็ถูกลำเลียงไปส่งยังส่วนอื่นๆของร่างกายต่อไปด้วยแรงปั๊มของหัวใจนั่นเอง
ประเด็นของเรื่องที่กำลังจะเล่าก็คือ ฮีโมโกลบิน และความผิดปกติของฮีโมโกลบินบินนี้นี่เอง เราเรียกมันว่า “ธาลัสซีเมีย”
เจ้าฮีโมโกลบินถูกกำหนดให้สร้างขึ้นมาด้วยพันธุกรรมของพ่อและแม่อย่างละครึ่ง คราวนี้ หากใครคนใดคนหนึ่งเกิดเป็นพาหะของความผิดปกติในการสร้างฮีโมโกลบิน ก็สามารถส่งพันธุกรรมนี้ไปให้ลูกด้วย และหากแจ๊กพ็อตจริงๆ ลูกเกิดได้รับพันธุกรรมของธาลัสซียเมียมาจากทั้งพ่อและแม่พร้อมกัน เขาก็จะเป็นโรคธาลัสซีเมียเต็มรูปแบบ
บางแบบอาจจะแค่ซีดเล็กน้อย เม็ดเลือดแดงผิดรูป...
เรื่องเพศเล็กน้อยของวัยรุ่น
วันนี้ไปเยี่ยมคนไข้ที่ถูกผ่าท้องคลอดและตัดมดลูกไปเมื่อวันก่อนมา ลูกสาวเธอน่ารักน่าเอ็นดู เจ้าเปี๊ยกตัวนั้นมันกำลังถูกจับอาบน้ำในอ่างอาบน้ำเด็กของหอผู้ป่วย พี่พยาบาลกำลังสอนพ่อแม่ในการอาบน้ำเด็กอ่อน สอนไปวักน้ำไป ล้างหัว ล้างหน้า ล้างจิ๋มเด็ก
เสียงมันร้องไห้ดังลั่น โบราณว่าไว้ ปอดเด็กจะขยาย เด็กจะแข็งแรง ผมนึกในใจ...
ทำไมเราไม่อาบน้ำเด็กอ่อนพร้อมแม่วะ ทำไมไม่ใช้อ่างอาบน้ำของผู้ใหญ่ ให้แม่แก้ผ้าลงไปอาบกับลูกเลย อาบกันไป กอดคลอเคลียกันไป อยากจะรู้นัก ว่ามันจะแหกปากร้องอย่างที่เห็นในวอร์ดแบบเมื่อกี๊ไหม ดีไม่ดี มันอาจจะรู้สึกดีเหมือนได้อยู่ในมดลูกอยู่ก็ได้
น่าสนใจ...ผมเดินออกมาด้วยจิตใจแช่มชื่น เพราะจู่ๆ ก็นึกถึงลูกสาว ที่เมื่อครั้งมันยังตัวเล็กเป็นทารกแบบนี้อยู่นั้น ผมก็อาบน้ำให้ลูกทุกวัน...
การบาดเจ็บการตายจากการทำแท้งเถื่อนยังมีอยู่จริง
Sex symposium มันมีชื่อไทยว่า “การประชุมระดับชาติ สุขภาวะทางเพศ ครั้งที่ ๓ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จากยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติที่ยั่งยืน” จะยาวไปไหนวะ มันถูกจัดขึ้นมาโดย สสส. และหน่วยงานใหญ่ๆร่วมด้วยอีกหลายหน่วยงาน เค้าเชิญผมมาร่วมในการบรรยายในหัวเรื่อง “มุมมองของแพทย์ต่อการทำแท้งที่ปลอดภัย”
“ชื่อเชยจังครับอาจารย์” ผมบอกกับอาจารย์ที่เคารพรักในฐานะที่ท่านจะเป็นผู้ดำเนินรายการในช่วงผม ท่านเคยเป็นประธานราชวิทยาลัยสูติฯ ของผมเอง ท่านบอกว่า กลัวคนไม่เข้าฟัง
“ก็เล่นตั้งขื่อเสียแบบนี้” ผมยังไม่เลิก“แล้วแป๊ะจะตั้งขื่อว่าอย่างไร” เลยถูกท่านย้อนกลับ“หมอ ช่วยหนูด้วย หนูท้อง” ผมเสนอ
ห้องของผม...
หมอครับ ผมเสร็จเร็ว หมอช่วยผมหน่อย…
“หมอครับ ผมเสร็จเร็ว หมอช่วยผมหน่อย” ยังไม่ทันจะได้หย่อนก้นลงนั่ง เจ้าหนุ่มน้อยคนนี้เขาก็บอกความร้อนใจให้ช่วยเหลือ
“ใจเย็นๆ หมอไม่ได้หนีไปไหน ปิดประตูแล้วก็นั่งลงก่อน ค่อยๆเล่ามา” ผมขำ
“มันหลั่งเร็วครับหมอ”
“เร็วแค่ไหนล่ะ” ผมบันทึกคำบ่นของเขาลงไปในประวัติว่า “premature ejaculation” แล้วเหลือบมองอายุของไอ้หนุ่มที่กำลังทุกข์ร้อน ออ..ยังไม่เบญเพส อีกหลายปีอยู่
“ไม่ถึงนาทีครับ บางทีชักเข้าชักออกไม่ถึง ๕ ครั้งก็เสร็จแล้ว” เออ..ก็นับว่าเร็ว ผมนึกในใจ แล้วหันไปหาน้องผู้หญิงที่เดินเข้ามาด้วยกัน เธอน่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเจ้าหนุ่มคนนั้น หน้าตาเธอดูราบเรียบ ไม่ได้เรียกว่าสะสวย...
ทำแท้งในวัยรุ่น
ผมเดินเข้าไปในร้านค้าของโครงการหลวงในสนามบินดอนเมือง
ในใจนึกอยากจะหาซื้ออะโดกาโว่
เอ๊ะ อะโดกาโด้เอ๊ะ อะโกดาโว่เอ๊ะ อะโวกาโด้เออ....ไอบ้า ไม่มีแฮะ..
ผมหยิบสตรอเบอร์รี่มา ๒ กล่อง จากนั้นก็เดินวนไปวนมา ได้กาแฟโครงการหลวงมาซองหนึ่ง รู้สึกคิดถึงมัน เมื่อก่อนจะมีกาแฟแบบนี้ติดบ้านตลอดเพราะเดินทางบ่อย ช่วงหลังแม้นเดินทางบ้างแต่ก็ไม่ได้เหลียวมอง เพราะว่ามันออกจะเข้มไปสักนิด ขมติดลิ้นทนนาน
ผมสะดุดที่ตู้แช่ผัก หยิบไชเท้ามา ๒ หัว กลับบ้านคืนนี้จะปั่นกินสดๆ อยากจะดีท็อกซ์สักหน่อย กรุงเทพฯ มันพิษเยอะ ผมนึกถามตัวเอง มันช่วยดีท็อกซ์ใจได้ไหมวะ.................
Sex symposium...
หัวใจวายตอนท้อง…โรคหัวใจกับการตั้งท้อง มันคือของแสลง เพราะการท้องจะทำให้หัวใจทำงานหนักมากขึ้น
เวลาเกือบจะตี ๒ แล้ว ผมเลือกที่จะเปิดกระจกรถแล้วขับลงมาจากอาคารจอดรถของโรงพยาบาลอย่างช้าๆ แสงส่องรายรอบมืดบ้าง สลัวบ้าง สว่างบ้างตามแสงไฟบนเสาส่องริมถนนภายในมหาวิทยาลัย บางอารมณ์ผมชอบแสงจากนีออนสีนวลขาว มันเป็นเหมือนแสงจากอดีต มองโคมไฟนีออนบนเสาไฟฟ้าทีไร มันมักจะพาผมหวนกลับไปยังตรอกข้างบ้านพักนายอำเภอที่บ้านเกิดเสียทุกครั้ง
ตรอกตันมีความลึกราวๆ ๓๐๐ เมตร ที่แยกตัวออกมาจากถนนใหญ่สายหลักของตัวเมืองสุราษฎร์ธานี ลึกเข้าไปจนสุดทางคือเรือกสวนเก่าที่เป็นที่อยู่ของพ่อและพวกเรา ปากซอยคือบ้านโบราณที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ให้รกร้างมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งทึ่ ๒ บ้านร้างที่พาให้ผมมีจินตนาการเพริดแพร้วไปถึงผีบ้านผีเรือนที่อาศัยอยู่ ช่วงเวลาค่ำมืดดึกดื่น มันคือจุดต้นซอยที่ทำให้ผมได้ออกกำลังกายเสียทุกครั้ง “วิ่งป่าราบ” เพราะกลัวผีหลอก...
หน้าที่ที่ยิ่งใหญ่
จะดีแค่ไหน ถ้าเรารู้สึกได้ตลอดเวลาว่า หน้าที่ที่เราทำอยู่นั้นมันยิ่งใหญ่หมอ กำลังช่วยให้ผู้เจ็บป่วยได้กลับบ้านไปพบญาติพี่น้องที่เขารักอีกครั้งพยาบาล ได้มีโอกาสประคับประคองและช่วยเหลือดูแลผู้ป่วย ประหนึ่งญาติมิตรของตน ไม่มีพยาบาล หมอทำงานลำบากเหลือเกิน ไม่มีพยาบาล คนไข้อาจเคว้งคว้างเภสัชกร ได้มีโอกาสจัดสรรและคัดเลือกยาที่ดีและปลอดภัยที่สุดแก่คนที่กำลังเจ็บป่วย เป็นฟันเฟืองที่สำคัญของการแพทย์ในปัจจุบันโภชนากร ได้มีโอกาสใช้ความรู้ของตน ในการจัดการด้านอาหารแก่ผู้ป่วยเฉพาะคน เฉพาะโรค เป็นหนึ่งในการรักษาที่ไม่ต้องใช้ยา คงมีไม่กี่คนที่จะทำหน้าที่แบบนี้ได้เจ้าหน้าที่ขนย้ายผู้ป่วย หรือ เวรเปล ได้มีโอกาสบริการผู้ป่วยที่ไม่สามารถเดินเองได้ไปยังที่ต่างๆ เรากำลังปลดปล่อยทุกข์ของผู้ที่ยังช่วยเหลือตัวเองลำบาก เรากำลังให้อิสระภาพแก่คนหลายคนที่จะได้ไปยังที่ต่างๆทั้งๆ ที่ร่างกายตนไม่สามารถทำได้ในขณะนั้น
แม่บ้าน...